Search

3 วัน ผู้ติดเชื้อในเรือนจำพุ่งเกิน 5,000 ...
...

3 วัน ผู้ติดเชื้อในเรือนจำพุ่งเกิน 5,000 ...
ส่ง “แรงใจ” ให้ “เรือนจำ”

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำ น่าตกใจจริงๆ ครับ
กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่ข้อมูลการตรวจพบผู้ติดเชื้อ 13 พฤษภาคม 2,835 ราย
แบ่งเป็นเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 1,795 ราย
กับทัณฑสถานหญิงกลาง 1,040 ราย
เช้าวันรุ่งขึ้น 14 พฤษภาคม บวกเพิ่มอีก 183 ราย แต่ไม่ได้แยกว่าจากที่ไหนเท่าไหร่ ตัวเลขทะลุ 3,018 แล้ว
ตกเย็น ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ เรือนจำกลางคลองเปรม 508 ราย เป็นผู้ต้องขัง 506 กับเจ้าหน้าที่อีก 2
เป็นการตรวจเชื้อแล้วทุกคน 100% แต่เฉพาะในแดน 4 แดนเดียว
ยังต้องเร่งตรวจเชื้อในแดนอื่นๆ ของเรือนจำกลางคลองเปรมต่อไปจนครบ ตัวเลขยังไม่รู้จะไปหยุดอยู่ที่เท่าไหร่ เรือนจำกลางคลองเปรม ทั้งใหญ่กว่าและคนเยอะกว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพด้วย
เช้า 15 พฤษภาคม ตัวเลขเรือนจำบวกเพิ่มอีก 877 ราย (ผมเข้าใจว่าน่าจะรวมคลองเปรม 508 แล้ว)

และล่าสุด เที่ยง 15 พฤษภาคม ยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุก 100% พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 1,219 คน ใน 3 เรือนจำ คือ เรือนจำกลางคลองเปรมอีก 510 คน เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 88 คน และเรือนจำพิเศษธนบุรี 621 คน

สรุปแล้ว ผมเข้าใจจากข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาว่า แค่ 3 วัน ทะลุ 5,114 ราย

ในกลุ่มเรือนจำในเขตลาดยาว มี 5 เรือนจำ อีก 2 เรือนจำ คือ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ความที่เป็นโรงพยาบาลก็น่าจะคัดกรองไปแล้ว
แต่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เป็นเรือนจำที่อยู่กันแออัดหนาแน่นที่สุด เพราะรับเฉพาะผู้ต้องขังคดียาเสพติด
ผมกลัวว่าตัวเลขที่นี่จะพุ่งพรวดพราด เพราะจำนวนคนเยอะกว่า และอยู่กันหนาแน่นกว่า
ในพื้นที่ระบาดหนักอย่าง กทม.ยังมีเรือนจำฝั่งธน คือ เรือนจำพิเศษธนบุรี กับ ทัณฑสถานหญิงธนบุรี สองเรือนจำนี้ก็คนเยอะและอยู่กันแออัดมาก
ยังมีเรือนจำพิเศษมีนบุรีอีกแห่งซึ่งพื้นที่น้อยแต่คนเยอะจึงต้องอยู่กันแออัดโดยสภาพบังคับ

เข้าใจว่ากรมราชทัณท์คงเร่งการตรวจเชิงรุก 100% ไปให้ครบให้เร็วที่สุดแข่งกับเวลา
เพื่อแยกตัวคนติดเชื้อออกมาดูแล และเพื่อหยุดวงจรระบาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในภาวะที่โลกนอกกำแพงก็ต้องเร่งคัดกรองเชิงรุกตามชุมชนต่างๆ ศักยภาพของเรือนจำก็คงมีข้อจำกัด อยากจะระดมสรรพกำลังมาตรวจก็อาจจะยาก
เหนื่อยแทนจริงๆ ครับ

เมื่อครั้งผมยังอยู่ในเรือนจำ คนในนั้นคุยกันว่า ถ้าโควิดหลุดเข้ามาได้เมื่อไหร่ จะติดเชื้อกันลุกลามร้ายแรงจนเกินกว่าจะจินตนาการ
วันนี้โควิดมันหลุดเข้าไปจริงๆ แล้วมันก็ยิ่งกว่าที่คิดไว้
ระลอกนี้ โลกภายนอกติดเชื้อง่ายกว่า ระบาดเร็วกว่า
ในเรือนจำก็เช่นเดียวกัน และผลก็ยิ่งทวีคูณ
ระบาดทางกายก็ย่ำแย่แล้ว ระบาดทางใจอาจจะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

มาตรการของราชทัณฑ์ ณ ขณะนี้ เข้มข้นที่สุด
คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า เจ้าหน้าที่ในเรือนจำไม่ให้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้าน
ชะลอการส่งตัวผู้ขังออกศาล ชะลอการรับคนใหม่เข้าข้างใน ถ้ามีก็ต้องกักตัวเข้มข้น 21 วัน ตรวจเชื้อ 2 รอบก่อนปล่อยเข้าแดนปกติ
ระหว่างนี้เร่งคัดกรองเชิงรุก 100% ตรวจทุกคนไล่ไปทุกแดนทุกเรือนจำ
คนติดเชื้อแยกตัวออกมาอยู่โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ ตามระดับอาการ

ปัญหาข้อเดียวคือ กำลังคนและเครื่องไม้เครื่องมือที่คงไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องมารับมือกับงานใหญ่ขนาดนึ้
ทั้งยังต้องแข่งกับเวลา ตรวจช้า 1 วัน ก็หยุดวงจรระบาดช้าไป 1 วัน
หวังว่า ทุกฝ่ายจะแบ่งปันสรรพกำลังเข้าไปช่วยครับ

อีกด้าน การลดแออัด ระบายคนออกก็จำเป็นต้องทำคู่ขนาน
การพักการลงโทษ การลดวันต้องโทษ ตามกฎเกณฑ์ก็คงเดินหน้า คงไม่หยุดชะงัก

เมื่อครั้งการระบาดระลอกแรก ผมอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ นักโทษชายคนหนึ่งแต่งเพลงหนึ่งเอาไว้ เพื่อส่งกำลังใจให้กับญาติพี่น้องในโลกภายนอก ชื่อเพลง “ไม่ต้องห่วงฉัน”

“ไม่ต้องห่วงฉัน อยู่ตรงนี้ฉันไม่เป็นไรหรอก
เธอเพียงเท่านั้น ที่ตรงนั้นที่น่าเป็นห่วง ... เขาบอก
วันที่โลกมันโหดร้าย ขอแค่เพียงให้เธอได้พ้นผ่านไป”

ถึงวันนี้ ระบาดระลอก 3 คงจะบอก “ไม่ต้องห่วง” คนในเรือนจำไม่ได้อีกแล้ว
ต้องเป็นการห่วงใยซึ่งกันและกันระหว่างโลกภายนอกกับโลกหลังกำแพง

แต่ในบางท่อนของเพลงนี้ ผมเชื่อว่านี่เป็นความในใจของคนในเรือนจำทุกคน

“ไม่มีงานเลี้ยงงานใดที่มันไม่เลิกรา
โรคร้ายก็เหมือนกัน เดี๋ยวมันก็ไป แค่ผ่านเข้ามา
เธอมีโอกาสอยู่บ้าน แต่เป็นฉันเองที่ต้องจากมา
ไม่เป็นไรให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกาลเวลา
มันคงจะมีสักวันที่เราได้กลับมาสบตา
ได้กลับมากอด มาจับมือกัน เหมือนวันที่ผ่านมา
อยากให้อดทนไว้ก่อนรออยู่ที่บ้านนะกานดา
ดูแลตัวเองให้ดีๆแล้วจะกลับไป ฉันสัญญา”

ประโยคหนึ่งของคนในเรือนจำ
“คนในไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง”

ร่วมกันส่งแรงใจให้คนในเรือนจำครับ 🙏


Tags:

About author
not provided
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ติด?
View all posts